กว่าจะมาถึงวันนี้
“ฟ้าเปิด OEM” ผลิตภัณฑ์อิสานได้คุณภาพกับบทบาทบนเส้นทางของ คุณสราวิช สุรดลยชัย (เถ้าแก่กี้) กว่าจะมาถึงวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง จนมาถึงวันที่มียอดสั่งซื้อสูงสุดในวันนี้ เราจะพาคุณไปเปิดประวัติและทำความรู้จักกับเถ้าแก่กี้กัน
ตำแหน่งหน้าที่
- ประธานกรรมการ บริษัท คีซโกลบอล กรุ๊ป จำกัด
- ประธานกรรมการ บริษัท ฟ้าเปิด OEM จำกัด
- สมาชิกกกรรมการหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์
ภูมิลำเนากำเนิด : จ.กาฬสินธุ์
จบการศึกษา : ม.5 ร.ร.กบินทร์วิทยา จ.ปราจีนบุรี
“ม.5 สู่เส้นทาง CEO เถ้าแก่กี้ปลาร้าเงินล้าน”
“เถ้าแก่กี้” มาจากเด็กคนหนึ่งที่ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนตอน ม.5 ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี แต่มีความต้องการออกมาเป็นพ่อค้าเต็มตัว เหตุด้วยชอบนำของไปขายระหว่างเรียนมาตั้งแค่อยู่ประถมปลาย ชอบค้าขายเก็บเงินลงทุนตั้งแต่ยังเรียน
ลาออกมาตอนอายุ 17 ปี มาเป็นพ่อค้าเต็มตัว ออกมาเล่าหอเล็กๆอยู่ สู้ด้วยใจล้วนๆ คอนเนคชั่นไม่มี ความรู้ไม่มี ประสบการณ์ไม่มี ครอบครัวแตกแยก ที่บ้านไม่มีใครเห็นด้วยและสนับสนุนเลย เรียกว่าต้นทุนความสำเร็จไม่มีเลย มีแต่หัวใจและการโฟกัสเป้าหมาย เพราะบอกตัวเองว่า ต้องสำเร็จเท่านั้น คือทางเดียว กลับไปเรียนไม่ทันแล้ว หมดเงินคนรอซ้ำสมน้ำหน้า เพราะดื้อไม่ฟังใคร ไม่มีใครเห็นด้วยเลย มีคนเข้าใจอยู่คนเดียวคือตัวเอง ที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร เพื่อไปสู่เป้าหมายอะไรอยู่ มันไม่ง่ายเลยตอนนั้น มัยยากมากจริงๆกับเด็กอายุสิบกว่าขวบในตอนนั้น ยอมทิ้งอนาคตที่กำลังจะดีในการศึกษา มาลงสนามชีวิตจริง มอเตอร์ไซค์คันเดียวกระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวและเงินติดตัว 1000 บาทเช่าหอพักเล็กๆเก่าๆ เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง
สรุปเจ๊งทุกอย่าง ตลอด 10 ปีเต็ม ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด แต่สู้ไม่ถอย
อายุเกือบ 30 เริ่มจับธุรกิจมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีธุรกิจที่ชื่อ ฟ้าเปิด OEM
ที่เป็นธุรกิจที่รับผลิตและทำแบรนด์ปลาร้าให้กับลูกค้า ปัจจุบันดูแลมากกว่า 400++ แบรนด์ ทั้งนักธุรกิจ ดารา และผู้ที่มีชื่อเสียงล้วนให้ทาง “ฟ้าเปิด OEM” ดูแลอยู่
จุดกำเนิด “ฟ้าเปิด OEM”
เกิดจาก “เถ้าแก่กี้” เป็นคนชอบทานปลาร้ามาก ต้องอร่อยและต้องสะอาดเท่านั้น จึงมีสูตรเป็นของตัวเอง ด้วยการเน้นใช้วัตถุดิบที่เป็นปลาร้าแท้และดีเท่านั้น ประกอบกับเป็นคนกาฬสินธุ์โดยกำเนิดจังหวัดขึ้นชื่อเรื่องปลาร้าอยู่แล้ว เนื่องจากมีแหล่งเขื่อนน้ำจืดที่ใหญ่มากคือ “เขื่อนลำปาว” จึงมีปลาน้ำจืดที่สดและปริมาณมาก “เถ้าแก่กี้” จึงพัฒนาวัตถุดิบท้องถิ่นตัวนี้ ประกอบกับ “เถ้าแก่กี้” มีทักษะการตบาดออนไลน์ที่เป็นคนทำตลาดออนไลน์ในยุคแรก นำความรู้ของตัวเองผนวกกับวัตถุดิบท้องถิ่น สร้างมูลค้า และสร้างช่องทางการตลาดในรูปแบบ การรับทำแบรนด์หรือ OEM ให้กับลูกค้าแบบครบ จบ พร้อมขาย
สืบเนื่องทำให้ “เถ้าแก่กี้” พัฒนาธุรกิจมาโดยใช้ระยะเวลาอันรวดเร็ว เป็นโรงงานที่สวย สะอาด สร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้กับลูกค้า และสามารถต้อนรับลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมได้ทุกวันในเวลาทำการ
www.farperdOEM.com
ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจถือว่ามาไกล แต่ยังไม่อยากเรียกว่าสำเร็จ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ยังอยากจะทำให้สำเร็จก่อน สิ่งหนึ่งที่อยากจะทำให้มากขึ้น และทำมาเรื่อยๆ คือการช่วยเหลือคน สร้างโบสถ์ ทำบุญ ทำโรงงานแจกอาหารให้คนตามอัตถภาพที่ตัวเองอยากจะทำได้ มาตลอด 10 กว่าปีที่ได้ทำบุญ รู้สึกได้คำตอบว่าทำไมเราต้องสำเร็จ ยิ่งเราสำเร็จมากขึ้น เราจะช่วยคน สร้างโบสถ์วิหารให้เสร็จเร็จขึ้น หากตากโลกนี้ไป ได้ช่วยและสร้างอะไรไว้เป็นความภูมิใจ คิดแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมาทำ และคิดจะทำต่อไปเรื่อยๆให้ดีขึ้นไปอีกครับ